ไม้ต้องเถียงกัน เพราะกฎยืนยันชัดเจน ควันหลง เหตุกรรมการตัดสินให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้จุดโทษ หลังเป่านกหวีดหมดเวล เกม ไบรท์ตัน 2-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
กลายเป็นข้อถกเถียงกันมากมาย สำหลับเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ไบรท์ตัน 3-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 26 กันยายน ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่า ทำไมผู้ตัดสินสามารถย้อนกลับมาดูวิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์)
ในกรณีที่ นีล เมาเปย์ นักเตะไบรท์ตันทำแฮนด์บอล ในช่วงทดเจ็บครึ่งหลัง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกมไปแล้ว
ขณะที่ กฎข้อ 8.13 ของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (ไอเอฟเอบี) ระบุว่า ถึงแม้ว่าผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบครึ่งแรกหรือครึ่งหลังไปแล้ว
แต่เมื่อ วีเออาร์ ติดต่อมาว่ายังมีเหตุการณ์ที่ยังตัดสินไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจน ก่อนจะมีการเป่าหมดเวลา ผู้ตัดสินสามารถกลับมาดูภาพช้าได้และตัดสินใหม่ได้ถ้านักเตะ และ ผู้ตัดสินเองยังอยู่ในสนาม
ในกรณีที่วีเออาร์แจ้งไปยังผู้ตัดสินหลังเป่าจบเกม วีเออาร์ จะให้ผู้ตัดสินบอกกับนักเตะทุกคนในสนามว่า อย่าเพิ่งออกจากสนาม แล้วจึงตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกับทางกรรมการวีเออาร์
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหา ทุกๆ นาทีสุดท้ายของทั้งสองครึ่ง กรรมการวีเออาร์ จะต้องแจ้งผู้ตัดสินก่อนว่า
ยังมีเหตุการณ์ที่จำเป็นจะต้องพิจารณาใหม่ ก่อนจะหมดเวลา จุดนี้ห้องวีเออาร์ จะแจ้งก่อนผู้ตัดสินในสนามเป่านกหวีดหมดเวลา เพื่อป้องกันว่าเป่านกหวีดหมดเวลาแล้วอาจจะโดนทีมที่เสียประโยชน์ประท้วงได้
ติดตามข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ sportsball2you ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก siamsport