ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เกมนัดเปิดสนาม ฤดูกาล 2020/2021 ซาลาห์ สร้างสถิติหน้าใหม่ให้ตอเอง
เกมดังกล่าว เจ้าถิ่น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ 4 ประตูโดยที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำแฮตทริกกดคนเดียว 3 ประตู
โดย บังโม ได้ประตูแรกใน นาทีที่ 4 (จากลูกจุดโทษ) , นาทีที่ 33 และ นาทีที่ 88 (จากลูกจุดโทษ) และ เป็นประตูชัยช่วยให้ทีมคว้า 3 คะแนนสุดสำคัญไปครองได้
ส่วนอีกลูกเป็นทางด้าน เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในนาทีที่ 33 ขณะทีมเยือน “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ถึง 3 ประตูจาก แจ็ค แฮร์ริสัน นาทีที่ 12, พาทริค แบมฟอร์ด 30′ และ มาเตอุส คลิช นาทีที่ 66
ในช่วงก่อนหมดเวลาการแข่งขันเพียง 2 นาที ซาล่าห์ ก็มาสังหารจุดโทษอีกครั้ง จนกลายเป็นประตูชัยช่วยให้ทีมคว้า 3 คะแนนสุดสำคัญไปครองได้
จากผลงานที่ร้อนแรงดังกล่าว ทำให้ ซาล่าห์ ทำสถิติที่ยอดเยี่ยมขึ้นมามากมายจากเกมในนัดนี้
เขากลายมาเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ยิงแฮตทริคได้ ในเกมนัดเปิดฤดูกาล นับตั้งแต่ยุคของ จอห์น อัลดริดจ์ เมื่อปี 1988
ประตูแรกของ ซาล่าห์ ในเกมนัดนี้เป็นประตูที่ 50 ของเจ้าตัวกับการลงสนามเกมเหย้าในพรีเมียร์ ลีก นับรวมตั้งแต่สมัยอยู่กับเชลซีและลิเวอร์พูลจากการลงสนามเพียง 63 นัด
มีเพียง อลัน เชียร์เรอร์ คนเดียวเท่านั้นที่ยิงได้ 50 ลูกในพรีเมียร์ ลีก โดยใช้เวลาเร็วกว่าเขาที่ 47 เกม
ซาล่าห์ กลายมาเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลที่ยิงได้ในเกมนัดเปิดฤดูกาลถึง 4 ปีติดต่อกัน และเป็นเพียงนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีกที่ทำสถิตินี้ได้ต่อจาก เท็ดดี้ เชอริงแฮม
ในตอนนี้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะได้ตลอด 35 เกมหลังสุดที่ ซาล่าห์ ทำประตูได้ และนั่นก็เป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ ลีก โดยทุบสถิติเดิมที่ เวย์น รูนี่ย์ ทำไว้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ 34 เกม ระหว่างเดือนกันยายน 2008 ถึง กุมภาพันธ์ 2011
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ถือครองสถิตินักเตะที่ยิงประตูได้ครบ 100 ลูกให้กับลิเวอร์พูลเร็วที่สุด โดยใช้เวลาลงสนามรวม 165 เกม
ขณะที่ ซาล่าห์ ยิงไปแล้ว 97 ประตูจากการลงสนาม 154 เกมให้กับทีมดังจากเมอร์ซี่ไซด์ ซึ่งหมายความว่า เขามีเวลาอีกถึง 10 เกม เพื่อในการยิงอีก 3 ประตู สำหรับการทำลายสถิติดังกล่าว
ซาล่าห์ รั้งอันดับที่ 4 ของลิสต์ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในพรีเมียร์ ลีกของลิเวอร์พูล หลังกดไปแล้ว 76 ลูก
ทว่าหากเจาะลึกที่อัตราเฉลี่ยการทำประตูต่อเกมของเขาแล้ว สูงถึง 0.7 ลูกต่อเกม ซึ่งดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
เมื่อนำไปเปรียบกับดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ณ อย่าง ฟาวเลอร์ ที่กดไป 128 ลูกแล้ว เขามีอัตราเฉลี่ยทำไป 0.48 ลูกต่อเกมเท่านั้น
หาก ซาล่าห์ คงอัตราส่วนการทำประตูที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้เอาไว้ได้ เขาจะยิงในพรีเมียร์ ลีกได้เท่ากับ ฟาวเลอร์ ที่ 128 ลูกในอีก 75 เกมข้างหน้า
ซึ่งหมายความว่า จะทาบสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร โดยการลงสนามเพียง 184 นัด เทียบกับอดีตหัวหอกเจ้าของฉายา “เดอะ ก็อด” ที่ 266 เกม
ติดตามข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ sportsball2you ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก siamsport
อัพเดทล่าสุด : 14 กันยายน 2020